น้ำดื่มอุดมด้วยออกซิเจน

น้ำดื่มอุดมด้วยออกซิเจน (Oxygen Enriched Drinking Water)

          น้ำและออกซิเจน เป็นปัจจัยที่มีสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดี รวมถึงการมีผิวสดใสเปล่งปลั่ง เนื่องจากน้ำและออกซิเจนเป็นสิ่งสำคัญทั้งในการเจริญ (Growth) รักษาสภาพ(Maintenance) และการทำงาน (Functioning) ของทุกส่วนในร่างกาย ตั้งแต่ระดับอวัยวะไปจนถึงระดับเซลล์ 

 
          การเพิ่มขึ้นของออกซิเจนในกระแสเลือดส่งผลให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น เช่นสมอง (Brain) ความคิด ความจำและมีสมาธิมากขึ้น ตับ (Liver) สามารถกำจัดสารพิษต่าง ๆ ในร่างกายได้ดีขึ้น หรือแม้แต่ผิวหนังมีความชุ่มชื้นสดใสเปล่งปลั่ง ก็เป็นผลมาจากการได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ด้วยเทคโนโลยีนาโนบับเบิ๊ล เมื่อนำมาใช้กับออกซิเจนทางการแพทย์ ทำให้เราสามารถเติมออกซิเจนลงในน้ำดื่มให้มีปริมาณออกซิเจน (Dissolved oxygen : D.O.) ได้ถึง 45 ppm น้ำดังกล่าวจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพกว่าน้ำดื่มปกติทั่วไปที่มีปริมาณออกซิเจน (Dissolved oxygen: D.O.)  เพียง 6-7 ppm เท่านั้น

          จากการศึกษาของศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ เอ.เพคดาแมน (Prof.Dr. A. Pakdaman M.D., Institute of Anaesthesiology at the Johannes-Gutenberg-University Mainz , Germany ,1992) พบว่าในอาสาสมัครที่ดื่มน้ำที่มีออกซิเจนสูง (Oxygen- enriched water: D.O. 45 ppm) จะมีปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังดื่มน้ำดังกล่าวเพียง 5 นาที เท่านั้น

          การเพิ่มขึ้นของออกซิเจนในกระแสเลือด มีผลดีต่อการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ (Liver) ที่สารต่าง ๆ ซึ่งถูกดูดซึมในระบบย่อยอาหาร ต้องเข้าสู่ตับเป็นอวัยวะแรก ออกซิเจนในน้ำดื่มที่ดูดซึมก็จะมาที่ตับเช่นกัน หน้าที่ของตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งสร้างพลังงานที่สำคัญของร่างกาย ในขณะเดียวกันตับก็เป็นแหล่งกำจัดสารพิษต่าง ๆ เช่น แอลกอฮอล์และยาฆ่าแมลงที่ติดมากับผักที่รับประทาน เป็นต้น จะเห็นได้ว่าตับเป็นอวัยวะที่ต้องการพลังงาน (ATP) สูง การที่ตับได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นจากการดูดซึมในระบบย่อยอาหาร ทำให้เซลล์ของตับสามารถดึงออกซิเจนมาใช้ประโยชน์ในการสร้าง  ATP  ทำให้ตับสามารถทำหน้าที่ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และเป็นการป้องกันอันตรายต่อเซลล์ตับจากสารพิษดังกล่าวด้วย ซึ่งส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี

      การดูดซึมออกซิเจนจากระบบย่อยอาหารจะเข้าสู่กระแสเลือดและถูกส่งไปยังอวัยวะอื่น ๆ ต่อไป โดยมีตับเป็นอวัยวะแรกที่เลือดจากระบบย่อยอาหารถูกส่งไปเลี้ยง ดังนั้น เซลล์ของตับ (Liver cell) ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตพลังงานและสังเคราะห์สารที่สำคัญ ๆ ต่อการทำงานของร่างกาย เช่น อัลบูมิน (Albumin) ในขณะเดียวกัน เซลล์ตับยังทำหน้าที่กำจัดสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย (Detoxification) เช่น การกำจัดแอลกอฮอล์ เป็นต้น ซึ่งทั้งการสร้างและกำจัดสารพิษล้วนแต่เป็นขบวนการที่ต้องใช้พลังงานทั้งสิ้น  จะเห็นได้ว่าตับเป็นอวัยวะที่มีกิจกรรมทางชีวภาพ (Bio-activity) สูงมากทำให้ต้องการพลังงานสูงตามไปด้วย

Determination of pO2 in venous blood before and after peroral oxygen treatment with a bottle of 0,33 l oxygenated water and an oxygen content approx. 45 mg/ l. (the patient lays in a closed room with minimum O2-content) Institute of Anaesthesiology at the Johannes-Gutenberg-University Mainz / Germany 92/1992)

ตัวแปร	Before	5 minutes after	10 minutes after	15 minutes after	20 minutes after	30 minutes after
Temp	37°C	37°C	37°C	37°C	37°C	37°C
Hb	15 Gr%	15 Gr%	15 Gr%	15 Gr%	15 Gr%	15 Gr%
pO2	19.5 mmHg	33.8 mmHg	31.0 mmHg	30.0 mmHg	29.2 mmHg	28 mmHg

This examination has been performed in 20 patients and probationers. Results were obtained from the blood and by transcutaneous measurement. The results have been documented.